โปรไบโอ 1 แคปซูลประกอบด้วยจุลินทรีย์ชนิดดีจำนวน 6,000 ล้าน CFU ถูกล็อคไว้ภายในแคปซูลด้วยเทคโนโลยี่ DRcaps ซึ่งจะสามารถทำให้แคปซูลทนต่อกรดในกระเพาะอาหารและเริ่มการสลายแคปซูลใน 52 นาทีนำพาจุลินทรีย์ไปสู่ลำไส้เล็กอย่างมีประสิทธิผล ทำไม Probio ของเราถึงดีที่สุดในตลาด!!! หากคุณสงสัยว่ามันคืออะไรและทำไมคุณถึงต้องทาน “โปรไบโอติก” เป็นคำที่มีรากศัพท์จากภาษากรีก
“โปร” หมายถึง “การส่งเสริม” และ “ไบโอติก” หมายถึง “ชีวิต” องค์การอนามัยโลกให้คำนิยามโปรไบโอติกดังนี้“จุลินทรีย์ที่มีชีวิตซึ่งเมื่อควบคุมในปริมาณที่เพียงพอจะให้ประโยชน์ทางสุขภาพแก่ร่างกาย”เรามักจะคิดว่าแบคทีเรียนั้นไม่ดีสำหรับเราและแบคทีเรียที่ไม่ถูกต้องในสถานที่ที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดปัญหาได้อย่างแน่นอน แต่แบคทีเรียที่ถูกต้องในสถานที่ที่เหมาะสมจะมีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน พวกมันสามารถทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกันของคุณแข็งแรง ช่วยคุณจัดการกับน้ำหนัก เพิ่มอารมณ์และอาจทำให้คุณรู้สึกและดูอ่อนกว่าวัย
1. โปรไบโอติกและสุขภาพของลำไส้
หตุผลที่พบบ่อยที่สุดในการใช้โปรไบโอติกคือเพื่อสนับสนุนสุขภาพของลำไส้ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าโปรไบโอติกทำงานเพื่อฟื้นฟูลำไส้ให้กลับสู่สภาวะปกติและมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อลำไส้ทำงานเต็มที่ มันสามารถทำงานเพื่อช่วยสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันและคงหน้าที่ตามปกติของลำไส้ไว้ได้
ผู้ที่ใช้ยาปฏิชีวนะในระยะยาวหรือผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหารอื่น ๆ อาจได้รับประโยชน์จากการเพิ่มปริมาณของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ แต่มีเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องใช้โปรไบโอติกทุกวัน
2. โปรไบโอติกและการจัดการน้ำหนัก
ความคิดที่ว่าโปรไบโอติกสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนักขึ้นอยู่กับทฤษฎีว่าด้วยประเภทและปริมาณของแบคทีเรียในลำไส้มีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของบุคคล งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ศึกษาผลของโปรไบโอติกที่มีต่อน้ำหนักพบว่าเมื่อคนมีแบคทีเรียบางสายพันธุ์เช่น Lactobacillus rhamnosus และ Bifidobacterium lactis พวกเขามีการลดลงโดยรวมของมวลไขมันน้ำหนักตัวและน้ำหนักส่วนเกิน จากงานวิจัยแบบทบทวน 82 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโปรไบโอติกแบคทีเรีย Lactobacillus plantarum ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก
ในงานวิจัยแบบทบทวนอีกหนึ่งงานนักวิจัยได้รวบรวมการค้นพบจากการทดลองแบบสุ่มของมนุษย์ 25 การทดลองกับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีกว่า 1,900 คนเพื่อศึกษาว่าโปรไบโอติกที่บริโภคมีผลกระทบต่อน้ำหนักและ BMI อย่างไร พวกเขาพบว่าค่า BMI และน้ำหนักตัวลดลงเล็กน้อย แต่มีหลักฐานเพียงพอที่ว่าแม้แต่การลดลงเล็กน้อยเหล่านี้ก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมและลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับค่าดัชนีมวลกายและน้ำหนักตัว การศึกษานี้พบว่าการทานโปรไบโอติกมากกว่าหนึ่งชนิดเป็นเวลามากกว่า 8 สัปดาห์จะมีประโยชน์มากที่สุด
แม้ว่าบางคนยังคงโต้แย้งความคิดที่ว่าโปรไบโอติกสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ แต่ก็มีเหตุผลดี ๆ มากมายที่จะทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของคุณ
3. โปรไบโอติกและระบบภูมิคุ้มกัน
โปรไบโอติกแสดงให้เห็นว่ามันสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน นักวิจัยแนะนำให้เริ่มต้นโปรไบโอติกอย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนเริ่มฤดูหนาวและฤดูกาลของไข้หวัดใหญ่ นักวิจัยบางคนเชื่อว่าโปรไบโอติกมีปฏิสัมพันธ์กับการการสร้างพันธุกรรมของบุคคลเพื่อเปลี่ยนระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรับรู้การเชื่อมต่อระหว่างแบคทีเรียในลำไส้และระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานได้ดี แต่ปัจจุบันพวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าการเชื่อมต่อนี้ทำงานอย่างไร
จากการศึกษาผู้เล่นรักบี้ชาวนิวซีแลนด์แสดงให้เห็นว่านักกีฬาเหล่านี้มีโรคหวัดและการติดเชื้อในทางเดินอาหารลดลง 40% เมื่อพวกเขารับประทานโปรไบโอติกเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับยาหลอก ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเป็นพิเศษที่จะช่วยคุณต่อสู้กับโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่เป็นเพียงเหตุผลที่ดีอีกข้อหนึ่งในการใช้โปรไบโอติก
4. โปรไบโอติกและอารมณ์
ทุกคนรู้ว่าสิ่งที่คุณกินมีผลต่อความรู้สึกทางร่างกายของคุณ แต่ทางจิตใจล่ะ พวกเราหลายคนปวดท้องเมื่อเรากังวลเกี่ยวกับบางสิ่ง มีหลักฐานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่าการเชื่อมต่อระหว่างร่างกายและจิตใจอยู่ที่ลำไส้ที่มีสุขภาพดี จากข้อมูลของ Kelly Brogan จิตแพทย์ที่ใช้โปรไบโอติกเพื่อช่วยผู้ป่วยของเขา “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรไบโอติกและการเปลี่ยนแปลงในอาหารสามารถส่งผลต่อสมองได้” การศึกษาอีกหนึ่งงานพบว่าโปรไบโอติกสามารถช่วยบรรเทาอาการของคนที่รู้สึกวิตกกังวล
5. โปรไบโอติกและผิวหนัง
หากคุณยังไม่มั่นใจว่าคุณต้องการ
โพรไบโอติก ข้อนี้อาจเปลี่ยนความคิดของคุณก็ได้ โปรไบโอติกนั้นเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ของการต่อต้านความชรา รวมถึงการปรับปรุงผิวพรรณด้วย คุณอาจเคยได้ยินเรื่องการทำสปาด้วยการวางโยเกิร์ตลงบนผิวโดยตรง แต่จากการศึกษาพบว่าการรับประทานโปรไบโอติกสามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและช่วยส่งเสริมคุณภาพผิวและเส้นผมของคุณ
